ใครประสบปัญหานี้อยู่ ยกมือขึ้น.....
อืม นั่นสิ ทำไมล่ะ ตอนจบใหม่เงินเดือนยังน้อยๆอยู่ ใช้เงินแบบเดือนชนเดือนอันนี้ยังพอเข้าใจได้ แต่นี่ก็ทำงานมาหลายปีแล้ว เงินเดือนก็ได้เพิ่มขึ้นแต่จนแล้วจนเล่าก็ยังใช้เงินเดือนแบบเดือนชนเดือนอยู่ดี มันต้องมีอะไรไม่ปกติแน่ๆ เงินมันหายไปไหนโม้ด
ถึงเวลาแล้วล่ะ ที่เราต้องมาเป็นนักสืบสืบชีวิตประจำวันตัวเองดูว่าวันๆ หนึ่งเงินมันหายไปกับอะไรบ้าง
ใช่ค่ากาแฟสุดหรู แก้วละ 45 บาท ที่ต้องกินทุกวันหรือเปล่านะ
เวลาเบื่อๆไปเดินห้างก็ช็อปปิ้งขำๆหรือเปล่านะ
กินอาหารนอกบ้านอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้งหรือเปล่านะ
ดูหนังทุกเรื่องที่เข้าฉายหรือเปล่านะ
ตกเย็นมีนัดสังสรรค์ตลอดๆหรือเปล่านะ
เอาว่าแค่ยกตัวอย่างมานี่ก็ตีเป็นเงินไปหลายบาทแล้วนะคะ สังเกตดีๆว่าเหล่านี้ล้วนแต่เป็นการใช้เงินที่ฟุ่มเฟือยทั้งนั้นที่เราสามารถลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้
สมมุติว่าไม่ได้มีเงินอะไรเพิ่มเลยนะ หันมากินกาแฟข้างทางแก้วละ 20 บาท เราก็ประหยัดได้วันละ 25 บาทแล้ว ถ้าคิดว่ากินกาแฟเฉพาะวันทำงาน 20 วัน โห เราประหยัดไปได้ 25 บาท x20 วัน = 500 บาทต่อเดือนเลยนะคะเนียะ ส่วนเรื่องอื่นๆ พวกสังสรรค์ กินข้าว ดูหนัง ช็อปปิ้ง แค่ลดจำนวนความถี่ลง คุณก็มีเงินเหลือแล้ว
เห็นมั้ยคะ บางทีก็เป็นเรื่องง่ายๆ ที่เราไม่ค่อยนึกถึงกัน หรือบางทีก็นึกถึงแต่บังคับตัวเองไม่ค่อยได้ เผลออีกทีสิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจทู้กที ฉะนั้นต้องมีวินัยกับตัวเองด้วยนะคะ ตั้งกฎเหล็กให้ตัวเองไว้เลยว่าจะใช้ให้น้อยกว่าที่หาได้
เมื่อเราเริ่มฝึกจนเป็นนิสัยแล้ว ต่อมาลองเปลี่ยนวิธีใช้เงินดู จากที่มีเท่าไรใช้เท่านั้น เหลือแล้วค่อยเอามาเก็บ แต่นี่เราคนใหม่ เก็บก่อนเลยค่ะ เหลือเท่าไรค่อยใช้ คราวนี้ล่ะ มีเงินเก็บแน่นอน
พวกเรามักชอบบอกกับตัวเองว่า ตอนนี้เรายังไม่รวยเดี๋ยวค่อยเก็บแล้วกัน จะเอาที่ไหนมาเก็บจะกินยังไม่ค่อยจะพอเลย แต่เชื่อเถอะ ถึงเงินเดือนเพิ่มขึ้นรายจ่ายเราก็จะเพิ่มขึ้นตาม ยิ่งไลฟ์สไตล์คนสมัยนี้ ถ้าไม่กันเงินไว้ก่อน ใช้ยังไงก็หมด พวกเรายิ่งเก่งในการใช้เงินแบบไม่เป็นสองรองใครกันอยู่ด้วย
แล้วพอเรามีเงินเก็บเยอะๆ ก็สามารถขยับขยายนำไปลงทุนต่อไป
ถ้าทำได้ตามนี้ "รู้จักหา รู้จักเก็บ รู้จักใช้ รู้จักการขยายผล" แววเศรษฐีอยู่ข้างหน้าเห็นๆ โฮะๆๆ