เราต้องยอมรับกันก่อนว่า แต่ละคนรับความเสี่ยงได้ไม่เท่ากัน การที่เรากลัวความเสี่ยงไม่ใช่เรื่องผิดแต่ประการใด เงินทองหายาก ถ้าไม่เพิ่มก็ขออย่าลดลงเลย อย่าให้ใครมาทำให้เราไขว้เขว แต่ละคนมีแนวทางการเก็บเงิน การทำให้เงินงอกเงยในแบบฉบับของตัวเอง เค้าเรียกว่าทำให้มันถูกจริตกับตัวเองแล้วเราจะได้ไม่ต้องไปเครียดพะวงกับเงินก้อนนั้น
วันนี้เราจะมาแนะนำสำหรับคนที่ไม่ชอบความเสี่ยง ที่มีความคิดว่าขอให้ได้เก็บเงิน เงินต้นยังอยู่ครบให้อุ่นใจ ได้เห็นเงินมันงอกขึ้นมาบ้าง ไม่ต้องเยอะมากก็ได้ เอาแบบช้าๆ แต่ชัวร์ก็พอใจแล้ว ซึ่งบางทีวิธีง่ายๆที่หลายๆคนมองข้าม ก็ทำให้มีคนมีเงินเก็บเยอะมากแบบเงียบๆมานักต่อนักแล้ว
1. ฝากประจำ
ยังมีคนเข้าใจผิดอยู่นะว่า การฝากประจำ 3 เดือนคือการฝากเท่าๆกันทุก 3 เดือน หรือการฝากประจำ 6 เดือน คือการฝากเท่าๆกันทุก 6 เดือน ถ้าใครเข้าใจแบบนี้มาตลอดเปลี่ยนความคิดด่วนนะคะ เพราะการฝากประจำมันคือ การฝากให้เงินอยู่ในบัญชีตามระยะเวลาที่กำหนด ถ้าทำได้ก็จะได้ดอกเบี้ยตามอัตราที่ประกาศไว้ ถ้าทำไม่ได้ก็จะได้เป็นดอกเบี้ยออมทรัพย์แทน!! ฮั่นแน่ เริ่มปิ๊งไอเดียแล้วใช่ไม๊คะ
ก็แค่โยกเงินที่เป็นเงินเย็น(ปกติไม่ได้ใช้เงินก้อนนี้อยู่แล้ว) จากที่เคยอยู่ในบัญชีออมทรัพย์ มาไว้ในบัญชีฝากประจำ อัตราดอกเบี้ยฝากประจำมากกว่าอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์เห็นๆ ถ้าทำไม่ได้ก็กลับมาได้เท่าเดิมก็แค่นั้น
ยกตัวอย่าง ฝากประจำ 3 เดือน ถ้าเงินเราอยู่ครบในบัญชีเป็นเวลา 3 เดือน เราก็จะได้ดอกเบี้ยที่ประกาศ แล้วถามว่าเราต้องไปถอนไม๊ ถ้าต้องการใช้ก็ไปถอน ถ้าไม่ต้องการใช้ เราก็ปล่อยมันรันต่อไป เงินต้น+ดอกเบี้ยรอบที่แล้ว ก็จะกลายมาเป็นเงินต้นของรอบ 3 เดือนถัดไป มันก็จะทบๆกันไปเรื่อยๆ
ไม่ต้องกลัวงงนะคะ ธนาคารเค้าจะมีระบบคำนวณให้เราเสร็จ เราไปฝากเพิ่ม ก็จะเป็นเงินอีกก้อนนึง ทบกันไปทบกันมา วิธีนี้สามารถเอามาใช้กับมนุษย์เงินเดือนได้ด้วย ก็แค่เมื่อได้เงินเดือนมา แบ่งเงินไปฝากประจำซะทุกเดือน 1 ปี ก็มีเงิน 12 ก้อน แล้วแต่ละก้อนก็วนดอกเบี้ยทบไปทบมา ทบดอกเบี้ยกันจนงงล่ะทีนี้ ^^
แต่ดอกเบี้ยฝากประจำจะมีหักภาษี 15% ด้วยนะอย่าลืม
2. ฝากปลอดภาษี
วิธีนี้เหมือนเป็นการบังคับให้เรามีวินัยเก็บเงินกลายๆ เพราะเค้าจะมีระยะเวลากำหนด ต้องฝากจำนวนเงินเท่าๆกันทุกเดือนเป็นระยะเวลาตามที่กำหนด ส่วนใหญ่จะเป็น 1 ปี หรือ 2 ปี ถ้าทำได้ก็จะได้ดอกเบี้ยตามที่กำหนด ถ้าทำไม่ได้ก็จะได้ดอกเบี้ยออมทรัพย์ การฝากแบบนี้จะไม่โดนหักภาษี 15%
3. สลากออมสิน
ถ้ามีเงินก้อนใหญ่ ก็แนะนำให้ซื้อแบบก้อนเดียวเรียงเบอร์ให้ครบเลขนะคะ จะได้ถูกรางวัลเลขท้ายตลอดทุกเดือน (การถูกรางวัลถือเป็นผลพลอยได้ที่ไม่รวมอัตราดอกเบี้ยที่สลากออมสินให้) แต่ถ้าเรามีไม่เยอะขนาดนั้น ก็แค่อยากเก็บเงิน+ลุ้นรางวัล เราก็อาจทยอยซื้อก็ได้ ใครมีโชคจากการเสี่ยงดวงบ่อยๆ น่าจะสนใจแบบนี้นะคะ ระยะเวลาในการถืออาจจะนานหน่อย เช่น 3 ปี, 5 ปี แบบนี้ต้องใช้วิธีถือลืม เงินที่มาลงตรงนี้ต้องเป็นเงินเย็นเลยนะคะ
4. ลงทุนในกองทุนตราสารหนี้/ตราสารเงิน
ข้อดีของการลงทุนในกองทุนรวมคือเราจะเห็นผลตอบแทนวันต่อวันเลย เราไม่ต้องรอ 3 เดือน หรือ 1 ปี ถึงจะจ่ายดอกเบี้ยทีเหมือนกับดอกเบี้ยเงินฝาก ไม่หักภาษีด้วยเพราะถือว่าเป็นส่วนต่างกำไร การลงทุนในกองทุนรวมตราสารเงิน/ตราสารหนี้ ก็เหมือนเป็นการเปิดทางซ้อมมือการลงทุนต่อไปในอนาคตได้ เพราะมันเป็นการลงทุนอย่างนึงที่ไม่การันตีผลตอบแทน แต่กองทุนประเภทนี้จัดอยู่ในประเภทที่ความเสี่ยงต่ำ โดยทั่วไป อัตราผลตอบแทนจะอยู่ประมาณพอๆกับอัตราดอกเบี้ยฝากประจำ 3 เดือน
แต่ละแบบที่แนะนำมา ไม่มีวิธีไหนเสี่ยงต่อการเงินต้นหายเลย และยิ่งถ้าเรามีวินัย เก็บไปเรื่อยๆถ้านับเฉพาะเงินจากการเก็บก็ทำให้เรามีเงินก้อนสบายๆแล้ว สมมุติเก็บเดือนละหนึ่งพัน ครบหนึ่งปีมีเงินหมื่นให้ชื่นชมแล้ว นี่ยังไม่รวมผลตอบแทนกรุบกริบอีกนะคะ
เลือกซักวิธีแล้วเริ่มกันเลย ขอให้ร่ำรวยๆ ค่ะ ^^
- - - - - - - - - - - - - - - -
เข้าไปพูดคุย สอบถาม หรือ ติดตามข่าวสารได้ที่ facebook นะคะ
